มนุษย์ถูกออกแบบมาให้วิ่ง มากกว่าเดิน

มนุษย์ถูกออกแบบมาให้วิ่ง มากกว่าเดิน และการวิ่งได้นานๆทำให้มนุษย์มีเนื้อกิน

มนุษย์ถูกออกแบบมาให้<strong>วิ่ง</strong> มากกว่าเดิน #1

เชื่อว่าหลายคนเข้าใจว่า การที่มนุษย์ล่าสัตว์ได้นั้น ก็เพราะเรามีสมองที่สามารถคิด ประดิษฐ์อาวุธได้ คือธนูและหอก สำหรับล่าสัตว์มาเป็นอาหาร เมื่อหลายล้านปีก่อน นั่นเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดอย่างมาก หากวิเคราะห์หลักฐานจากกระดูกของมนุษย์และสัตว์ จะพบว่า

มนุษย์เริ่มกินเนื้อสัตว์เมื่อ 2.6 ล้านปีที่ผ่านมา เห็นได้จากหลักฐานการทุบกระดูกสัตว์และใช้ขนสัตว์ ฯลฯ ในถ้ำที่อยู่อาศัย 

อาวุธชิ้นแรกของเรา คือไม้ปลายแหลมเมื่อ 500,000 ปีที่แล้ว ธนู / ลูกธนู เกิดขึ้นช่วง 100,000 ปีก่อน ตามมาด้วยมีหอก ในช่วง 20,000 ปีที่แล้ว

การที่เราออกวิ่งในทุกๆ วันนั้นไม่ต่างจากการฝึกร่างกาย ให้ร่างกายได้กลับสู่ความเป็นธรรมชาติ เหมือนที่ธรรมชาติสร้างมา เพราะว่ามนุษย์นั้น Born To Run 

คำถามคือ แล้วมนุษย์สามารถล่าและจับสัตว์ได้อย่างไร ในช่วง 2 ล้านปีก่อน ก่อนที่จะมีอาวุธชิ้นแรก ว่ากันตามตรง การกินเนื้อสัตว์นั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะโปรตีน ทำให้มนุษย์ฉลาดขึ้น แต่ก็ตามมาด้วยขนาดสมอง ที่ใหญ่ขึ้นด้วย อ่านมาถึงตรงนี้ บางคนอาจจะกำลังนึกว่า ความฉลาดจากการมีสมองใหญ่ ทำให้มนุษย์จับสัตว์ได้ 

แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ ดร. แดเนียล ลิเบอร์แมน นักมานุษยวิทยา จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด อธิบายว่า เมื่อ 2.6 ล้านปีที่แล้ว การมีสมองขนาดใหญ่ ซึ่งทำให้หัวใหญ่ นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ยังเป็นภาระอย่างมากอีกด้วย เพราะหัวขนาดใหญ่ทำให้คลอดยาก สมัยก่อน ผู้หญิงมีโอกาสเสียชีวิตจากการคลอดลูกร้อยละ 20-30 ดังนั้น ร่างกายจึงวิวัฒนาการ ให้รีบคลอดออกมาก่อนที่หัวจะใหญ่เกินไป แต่ก็ทำให้เด็ก เกิดมาแบบช่วยตัวเองไม่ได้ พ่อแม่ต้องเสียเวลาราว 10 ปี เลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด

แตกต่างจากสัตว์อื่นๆ ที่คลอดลูกออกมาแล้วลูกเดินได้ วิ่งได้ ในระยะเวลาไม่กี่วัน

มนุษย์ เริ่มล่าสัตว์ได้เมื่อ 2.6 ล้านปีที่แล้ว ไม่ใช่เพราะมีสมองขนาดใหญ่ แต่ล่าสัตว์ได้ เพราะวิ่งไล่ จนสัตว์ตาย 

มนุษย์นั้น สามารถวิ่งที่ความเร็วระดับ 9-10 กิโลเมตร/ชั่วโมง (Pace 6:00 - 6:40) ได้เป็นเวลานานติดต่อกัน 4-5 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น 

การทนวิ่ง วิ่งทน ทำให้มนุษย์สามารถร่วมมือกัน วิ่งไล่สัตว์ให้เหนื่อยจนขาดใจ และเสียชีวิตได้ในที่สุด (Persistence hunting)

แม้สัตว์หลายชนิดจะวิ่งได้เร็วกว่ามนุษย์ 2-3 เท่า แต่ไม่มีสัตว์ประเภทใด วิ่งได้ยาวนานเท่ามนุษย์ โดยเฉพาะในภาวะที่อากาศร้อน

เพราะร่างกายมนุษย์ สามารถระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง จากเหงื่อที่ออกจากผิวหนังทั่วทั้งตัวและยังหายใจเร็วติดต่อกันได้นานหลายชั่วโมง 

ในขณะที่สัตว์อื่นๆ ร่างกายมีขน ระบายความร้อนด้วยเหงื่อไม่ได้ ต้องหายใจ และระบายความร้อน โดยการห้อยลิ้นออกมาหายใจแรงๆ (panting)

สัตว์ ไม่สามารถวิ่งเร็ว และหายใจไปพร้อมๆ กันได้ดีเท่ามนุษย์ สัตว์จะหายใจให้ลมเข้าปอดได้น้อยมากในช่วงที่วิ่งเร็ว และต้องหยุดวิ่ง พักเหนื่อย หายใจให้เต็มปอด

มนุษย์ถูกออกแบบมาให้<strong>วิ่ง</strong> มากกว่าเดิน #2

นอกจากนั้น ดร.ลิเบอร์แมนยังกล่าวถึงลักษณะต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อ “วิ่ง” ไม่ใช่เพื่อเดิน เช่น

  • กล้ามที่ก้น (Gluteus Maximus) กล้ามมัดใหญ่และแข็งแรงที่สุดของมนุษย์ ที่เราไม่ต้องใช้งานเลย ขณะเดิน แต่จะถูกใช้งาน ขณะวิ่ง ก้นที่ยื่นออกมาข้างหลังของมนุษย์นั้น มีหน้าที่เหมือนหางของสัตว์ ช่วยให้ร่างกายมีเสถียรภาพขณะวิ่ง 
  • ขาที่ยาวและแข็งแรง รวมทั้งหัวเข่าและเอ็นร้อยหวาย (Achilles tendon) ล้วนแต่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อการวิ่งทั้งสิ้นเพราะรวมกันแล้ว เป็นเสมือนสปริงมีประโยชน์มากในการเก็บเอาพลังงาน ไปใช้สำหรับวิ่ง แต่จะไม่ถูกใช้งานเวลาเดิน
  • ร่างกายมนุษย์ที่ยืน 2 ขานั้น ทำให้บางส่วนของร่างกายได้รับลมทำให้การระบายความร้อนด้วยเหงื่อทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อต้องวิ่งเวลานานๆ 
  • มีเอ็น nuchal ligament ที่หัว คอ และหัวไหล่ เพื่อช่วยให้หัวอยู่นิ่งระหว่างวิ่ง แทนที่จะแกว่งไปมา nuchal ligament ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เวลาเดิน 

กล่าวโดยสรุปคือ ร่างกายมนุษย์นั้น วิวัฒนาการมาเพื่อการวิ่งยาวๆ นานๆ เวลาอากาศอบอ้าว ทำให้ได้เปรียบสัตว์อื่นๆ ที่วิ่งเร็วกว่า มนุษย์จึงสามารถลาเนื้อมากินได้ ในช่วง 2.6 ล้านปีที่ผ่านมา

มนุษย์ถูกออกแบบมาให้<strong>วิ่ง</strong> มากกว่าเดิน #3

หมวดเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

อาหารเสริมผู้ออกกำลังกาย

เมื่ออกกำลังกายก็มักจะเหนื่อยและเผลอทำให้ทานอาหารมากขึ้นหลังจากออกกำลังกายแล้ว แต่ในความเป็นจริง เราไม่ได้ต้องการอาหารมากขึ้นเลย เราแค่ต้องรู้จักบริหาร โภชนาการ และ ช่วงเวลาในการรับประทานให้เหมาะสมแนวทางในการเลือกกินอาหารสำหรับออกกลังกาย ควรกินอาหารท...

อ่านต่อ

การนอนหลับ

โรคนอนไม่หลับ (Insomania) เป็นภาวะที่ควบรวมถึงอาการหลับยาก หลับสั้น ตื่นง่าย หรือตื่นเร็วเกินไปแล้วไม่หลับอีก โดยสาเหตุของโรคนอนไม่หลับเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งโรคทางจิตเวช ภาวะทางจิตใจ โรคทางเดินหายใจอุดกั้นขณะหลับ โรคต่อมลูกหมากโต และสารอื่นๆ เช่น ...

อ่านต่อ

สุขภาพหญิง

ผู้หญิงมีความแตกต่างจากเพศชายอยู่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของ ร่างกาย ฮอร์โมนของระบบสืบพันธุ์ ความแตกต่างเหล่านี้ส่งผลให้ผู้หญิงมีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างจากเพศชาย และในแต่ละช่วงอายุของผู้หญิงก็จะมีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกันไป โรคที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะ...

อ่านต่อ

สุขภาพชาย

สุขภาพผู้ชาย แต่เมื่อเริ่มเข้าเลข 3 พบว่าผู้ชายที่อายุเข้า 30 ปีขึ้นไป จะพบว่าตนเองนั้นมีพละกำลัง เรี่ยวแรงน้อยลง ไม่เหมือนก่อนสุขภาพโดยรวมเริ่มย่ำแย่ เพราะฉะนั้นการหมั่นดูแล สุขภาพผู้ชาย จึงเป็นสิ่งสำคัญ เรียกได้ว่า ใครเริ่มดูแลสุขภาพก่อนยิ่งได้เป...

อ่านต่อ

ต่อต้านอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) คือ สารประกอบที่สามารถป้องกันหรือชะลอกระบวนการเกิดออกซิเดชั่น(กระบวนการรวมตัวกับออกซิเจน) หน้าที่ของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ ลดความเสี่ยงต่อโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับอาหาร เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โร...

อ่านต่อ