3 ข้อต้องรู้และทำความเข้าใจ ก่อนทานยาสมุนไพร

ทำความเข้าใจก่อนเริ่มทานสมุนไพร
สมุนไพรสามารถ ออกฤทธิ์แบบยาเคมีได้ (ออกฤทธิ์อย่างอ่อนๆ) และสามารถไปฟื้นฟูร่างกายได้ นั่นคือข้อแตกต่างและเป็นความวิเศษจากธรรมชาติ แต่ยาเคมี ส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์เพื่อระงับอาการขณะนั้นๆเช่น เมื่อเป็นไข้ก็กินยาพารา น้ำตาลสูงก็กินเมตฟอร์มิน ยูริคสูงก็กินคอลชิซิน เป็นต้น
วันนี้ขอเสนอความรู้เบื้องต้นที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่มีความสำคัญหากเราต้องการทานสมุนไพรให้เห็นผลค่ะ
ปริมาณที่ทาน
การใช้สมุนไพรเป็นยานั้น ปริมาณเป็นเรื่องที่สำคัญและละเอียดอ่อน เพราะระยะเวลาที่เป็นโรค อาการที่ป่วย น้ำหนัก ส่วนสูง ความสามารถของการดูดซึมสารอาหารแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน จึงต้องพิจารณาปริมาณการทานเป็นรายๆไป แต่จะมีปริมาณแนะนำเป็นพื้นฐาน และสามารถปรับขึ้นหรือลดลงได้ เพราะสมุนไพรถ้าหากใช้ในปริมาณขนาดที่ใช้ไม่เหมาะสม เช่นทานในปริมาณที่น้อยเกินไปก็อาจจะไม่เห็นผล หรือถ้าหากทานในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน
ระยะเวลาในการทาน
สมุนไพรนั้นทำงานคนละแบบกับยาที่เป็นเคมี ดังนั้นผู้ใช้สมุนไพรจึงต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้ก่อน ประการแรกคือต้องใจเย็น เพราะไม่มีสมุนไพรใดที่ทานแล้วจะเห็นผลในการรักษาทันที ซึ่งการรักษาด้วยสมุนไพรจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา 1-3 เดือน ในการฟื้นตัว และจะเริ่มเห็นผลในการรักษาที่ 6 เดือนขึ้นไป
สารออกฤทธิ์สำคัญ
การนำสมุนไพรมาใช้เป็นยา ยังต้องคำนึงถึงรายละเอียดอื่นๆ อีกด้วย เช่น ธรรมชาติของสมุนไพรแต่ละชนิด สายพันธุ์ สภาวะแวดล้อมในการปลูก ฤดูกาล และช่วงเวลาเก็บ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญต่อการออกฤทธิ์ในการรักษาโรค ซึ่งหากทำไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ คุณภาพของยาสมุนไพรนั้นๆ ก็จะด้อยประสิทธิภาพ
ทานอาหารให้เป็นยา แต่อย่าทานยาเป็นอาหารนะคะ
POW พาว น้ำสมุนไพรพลูคาว ขนาด 375 ml พาวเอสเซ้นส์
พาวน้ำขนาดใหม่ 375 ml. พกพาสะดวกพาวน้ำ หรือ พาวซุยยากุเอสเซ้นส์ พาวขวดเล็ก พกพาสะดวก และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองทาน อัดแน่นด้วยส่วนผสมสมุนไพรที่มีประโยชน์เหมือนเดิม ประกอบด้วยสมุนไพรทั้งหมด 11 ชนิด ได้แก่ พลูคาว ใบมะรุม ลูกยอ กระชายดำ ตังก...
ดูรายละเอียดสุขภาพหญิง
ทำความรู้จักส่วนผสมหลักๆของโปรตีนพาวอัพ
พาวอัพ โปรตีนจากพาวสำหรับผู้ออกกำลังกาย ควบคุมน้ำหนักและดูแลสุขภาพ ส่วนผสมหลักๆในพาวอัพ ทำหน้าที่อะไรบ้าง Multi Plant Protein โปรตีนจากพืช5 ชนิด ได้แก่ ถั่วลันเตาสีทอง ถั่วเหลือง ข้าว เมล็ดทานตะวัน และเมล็ดฝ...
อ่านต่อปวดหลังแบบไหน อันตรายจนต้องพบแพทย์
โดยปกติเราแบ่งอาการปวดหลัง เป็น 2 แบบ ปวดเฉียบพลัน (Acute: ปวดหลังต่อเนื่องน้อยกว่า 6 สัปดาห์) กึ่งเฉียบพลัน (Subacute: ปวดหลังต่อเนื่อง 6-12 สัปดาห์)ปวดเรื้อรัง (Chronic: ปวดหลังต่อเนื่องนานกว่า 12 สัปดาห์) ในประเทศอุตสาหกรรม ความชุกชั่วชีวิต (...
อ่านต่อลดพฤติกรรมเด็กติดหวาน
แนะช่วงปิดเทอมพ่อแม่คุมเข้มน้ำตาล ลดพฤติกรรมเด็กติดหวาน เลือกกินผลไม้รสไม่หวานจัด แทนขนมหวานในช่วงปิดเทอมซึ่งเด็กจะมีอิสระในการเลือกกินอาหารมากขึ้น พยายามควบคุมการกินน้ำตาลแต่ละวัน ควรให้เด็กกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นกินผักและผลไม้ เลี่ยงขนมหวาน...
อ่านต่อบำรุงสมอง
สมองดี เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ เพราะสมองมีบทบาทต่อการทำงานของอวัยวะหรือระบบอื่น ๆ ด้วย เช่น ระบบประสาท การเคลื่อนไหวของแขน ขา ไปจนถึงการเดิน การทรงตัว และความจำ ปัจจุบันคนไทยมีความเสี่ยงในการเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทและสมองเพิ่มขึ้น เนื่องจาก...
อ่านต่อเตรียมร่างกาย ก่อนรับ วัคซีนโควิด19
ฉีดวัคซีนโควิด-19 ต้องเตรียมตัวอย่างไร กรณีที่มีผลข้างเคียงหลังการฉีดวัคซีน เช่น ปวดแขน บวมบริเวณที่ฉีด มีไข้ต่ำ ๆ ปวดเมื่อยตัว หรืออ่อนเพลีย สาหตุอาจเป็นเพราะร่างกายกำลังตอบสนองต่อวัคซีนโควิด-19กรณีที่มีไข้สูงกิน 38 ํ C ปวดเมื่อยมาก อ่อนเพลียมาก ควร...
อ่านต่อ