ดอกคำฝอย ดีต่อผิว

น้ำมันดอกคำฝอยมีประโยชน์ต่อผิวของมาก เพราะน้ำมันชนิดนี้อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก ซึ่งช่วยบรรเทาปัญหาผิวได้มากมาย น้ำมันดอกคำฝอยดีต่อผิวของเราอย่างไรบ้าง

สารสกัดจาก ช่วยป้องกันผิวแห้ง ลดรอยเหี่ยวย่น ให้ผิวแข็งแรงต้านทานโรค รักษาบาดแผล รักษาสิว ผิวขาวสว่างขึ้น

ป้องกันผิวแห้ง และ ลดรอยเหี่ยวย่น

การใช้น้ำมันดอกคำฝอยช่วยให้คุณมีใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์มากขึ้น นอกจากนี้น้ำมันดอกคำฝอยยังมีวิตามินอี ซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่ช่วยชะลอความชราและลดรอยเหี่ยวย่นที่ผิว ทั้งนี้น้ำมันดอกคำฝอย 100 กรัม มีวิตามินอีประมาณ 34 มิลลิกรัม ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวันถึง 200% นอกจากคุณจะนำน้ำมันดอกคำฝอยมาทำอาหารแล้ว คุณก็อาจนำมาใช้เป็นสกินแคร์ทุกสัปดาห์ เช่น คุณอาจนำน้ำมันดอกคำฝอยมาผสมกับส่วนผสมอื่นเพื่อใช้มาสก์หน้า ซึ่งมันจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเช่นกัน

ช่วยให้ผิวแข็งแรงต้านทานโรค

ผิวชั้นนอกสุดทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันร่างกาย จากสิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันสารก่อภูมิแพ้ สิ่งรบกวนผิว และเชื้อโรคที่อันตรายเท่านั้น แต่มันยังจำกัดการเสียน้ำออกจากร่างกาย หากผิวของคุณขาดกรดไขมันจำเป็น มันก็สามารถส่งผลต่อการทำงานของเกราะป้องกันผิว การทาหรือทานกรดไลโนเลอิกสามารถแก้ปัญหาดังกล่าว และช่วยฟื้นฟูการทำงานของเกราะป้องกันผิว อย่างไรก็ตาม การมีกรดไขมันจำเป็นที่ผิวไม่สมดุลนั้นยังส่งผลอื่นๆ ต่อร่างกาย เช่น การมีผมขาว หัวล้าน มีปื้นสีแดงที่ตกสะเก็ดบนหนังศีรษะ เป็นต้น การทาน้ำมันดอกคำฝอยสามารถช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้

ช่วยรักษาบาดแผล

กรดไลโนเลอิกทั้งในรูปแบบของยาทา หรือ ยาสำหรับทานก็สามารถช่วยรักษาบาดแผลได้ ซึ่งมีงานวิจัยที่ทำกับสัตว์พบว่า การทากรดไลโนเลอิกจะช่วยเพิ่มการสมานแผล รวมถึงเพิ่ม DNA และโปรตีนของบาดแผล ในขณะ ที่มีงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ทำกับหนูที่เป็นโรคเบาหวานพบว่า การกินกรดไลโนเลอิกทำให้มีการสร้างเส้นเลือดใหม่ และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

รักษาสิว

น้ำมันดอกคำฝอยอุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก ซึ่งคิดเป็นประมาณ 70% ขององค์ประกอบทั้งหมด  ซึ่งมันเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการรักษาไม่ให้เกิดสิว หากร่างกายมีระดับของกรดไลโนเลอิกต่ำ มันก็สามารถนำไปสู่การเกิดภาวะ Hyperkeratinization ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับของเคราตินเพิ่มขึ้น เราสามารถพบโปรตีนชนิดนี้ได้ในผิว ผม และเล็บ ส่งผลให้เกิดการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และทำให้รูขุมขนอุดตันจนนำไปสู่การเกิดสิวได้ในที่สุด อย่างไรก็ดี มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า การทากรดไลโนเลอิกเป็นเวลาหนึ่งเดือน ทำให้รูขุมขนที่อุดตันหรือสิวที่มองเห็นไม่ได้ด้วยตาเปล่าเล็กลงประมาณ 25% ดังนั้นคุณสามารถรับมือกับสิวโดยใช้น้ำมันดอกคำฝอยเช็ดผิวก่อนที่มันจะกลายเป็นสิวหัวดำหรือสิวหัวขาว

ผิวขาวสว่างขึ้น

เมื่อผิวสัมผัสกับแสงแดด เม็ดสีที่เรียกว่า เมลานิน จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเมลานินมีหน้าที่ปกป้องผิวจากรังสียูวี และทำให้ผิวของเราเข้มขึ้น แต่มีงานวิจัยพบว่า กรดไลโนเลอิกมีสารที่ช่วยให้ผิวสว่างขึ้น ซึ่งสามารถยับยั้งการผลิตเมลานิน และลดจุดด่างดำที่เกิดจากรังสียูวี แถมยังช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวด้านนอกสุด หรือ Stratum Corneum ส่งผลให้เมลานินถูกกำจัดออกไป นอกจากนี้วิตามินอีที่พบได้ในน้ำมันดอกคำฝอยยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด เพราะมันมีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากกระบวนการออกซิไดซ์เกินสมดุล ดังนั้นใครที่ตอนนี้มีผิวแทนมากเกินไปหลังจากนอนอาบแดด การใช้น้ำมันดอกคำฝอยก็อาจช่วยให้สีผิวจางลงและทำให้สีผิวมีความสม่ำเสมอ

หมวดเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

รักษาสิว

สิว นั้นเป็นอาการทางผิวหนังที่พบเห็นได้โดยทั่วไป จากการที่ไขมันกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน มักเกิดขึ้นได้บนใบหน้า หน้าอก  แผ่นหลัง  ไหล่ หรือบริเวณลำคอ ซึ่ง สาเหตุการเกิดสิว มีหลายประการ เช่น  กรรมพันธุ์  ฮอร์โมน และก...

อ่านต่อ

ต่อต้านอนุมูลอิสระ

สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) คือ สารประกอบที่สามารถป้องกันหรือชะลอกระบวนการเกิดออกซิเดชั่น(กระบวนการรวมตัวกับออกซิเจน) หน้าที่ของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ ลดความเสี่ยงต่อโรคโดยเฉพาะโรคเรื้อรังที่สัมพันธ์กับอาหาร เช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โร...

อ่านต่อ

สุขภาพหญิง

ผู้หญิงมีความแตกต่างจากเพศชายอยู่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างของ ร่างกาย ฮอร์โมนของระบบสืบพันธุ์ ความแตกต่างเหล่านี้ส่งผลให้ผู้หญิงมีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างจากเพศชาย และในแต่ละช่วงอายุของผู้หญิงก็จะมีปัญหาสุขภาพที่แตกต่างกันไป โรคที่ผู้หญิงส่วนใหญ่จะ...

อ่านต่อ

บำรุงผิว

การดูแลผิว บำรุงผิว ไม่เฉพาะผิวหน้าเท่านั้น รวมไปถึงการดูแลผิวกายด้วย ขั้นตอนดูแลผิวไม่ได้มีแค่การทำความสะอาดแล้วทาโลชั่นหรือครีมบำรุง แต่ยังครอบคลุมถึงการกินอาหารดีมีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และคลายเครียดด้วย ผิวของแต่ละ...

อ่านต่อ