3 ข้อต้องรู้และทำความเข้าใจ ก่อนทานยาสมุนไพร
ปรับปรุงล่าสุด : 3 พฤศจิกายน 2563ทำความเข้าใจก่อนเริ่มทานสมุนไพร
สมุนไพรสามารถ ออกฤทธิ์แบบยาเคมีได้ (ออกฤทธิ์อย่างอ่อนๆ) และสามารถไปฟื้นฟูร่างกายได้ นั่นคือข้อแตกต่างและเป็นความวิเศษจากธรรมชาติ แต่ยาเคมี ส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์เพื่อระงับอาการขณะนั้นๆเช่น เมื่อเป็นไข้ก็กินยาพารา น้ำตาลสูงก็กินเมตฟอร์มิน ยูริคสูงก็กินคอลชิซิน เป็นต้น
วันนี้ขอเสนอความรู้เบื้องต้นที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึง แต่มีความสำคัญหากเราต้องการทานสมุนไพรให้เห็นผลค่ะ
ปริมาณที่ทาน
การใช้สมุนไพรเป็นยานั้น ปริมาณเป็นเรื่องที่สำคัญและละเอียดอ่อน เพราะระยะเวลาที่เป็นโรค อาการที่ป่วย น้ำหนัก ส่วนสูง ความสามารถของการดูดซึมสารอาหารแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน จึงต้องพิจารณาปริมาณการทานเป็นรายๆไป แต่จะมีปริมาณแนะนำเป็นพื้นฐาน และสามารถปรับขึ้นหรือลดลงได้ เพราะสมุนไพรถ้าหากใช้ในปริมาณขนาดที่ใช้ไม่เหมาะสม เช่นทานในปริมาณที่น้อยเกินไปก็อาจจะไม่เห็นผล หรือถ้าหากทานในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน
ระยะเวลาในการทาน
สมุนไพรนั้นทำงานคนละแบบกับยาที่เป็นเคมี ดังนั้นผู้ใช้สมุนไพรจึงต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้ก่อน ประการแรกคือต้องใจเย็น เพราะไม่มีสมุนไพรใดที่ทานแล้วจะเห็นผลในการรักษาทันที ซึ่งการรักษาด้วยสมุนไพรจำเป็นต้องใช้ระยะเวลา 1-3 เดือน ในการฟื้นตัว และจะเริ่มเห็นผลในการรักษาที่ 6 เดือนขึ้นไป
สารออกฤทธิ์สำคัญ
การนำสมุนไพรมาใช้เป็นยา ยังต้องคำนึงถึงรายละเอียดอื่นๆ อีกด้วย เช่น ธรรมชาติของสมุนไพรแต่ละชนิด สายพันธุ์ สภาวะแวดล้อมในการปลูก ฤดูกาล และช่วงเวลาเก็บ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญต่อการออกฤทธิ์ในการรักษาโรค ซึ่งหากทำไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ คุณภาพของยาสมุนไพรนั้นๆ ก็จะด้อยประสิทธิภาพ
ทานอาหารให้เป็นยา แต่อย่าทานยาเป็นอาหารนะคะ
ชาขาว ชาขาวเข็มเงิน แม่สรวย เชียงราย
ชาขาวไป๋หาวหยินเจิน หรือที่รู้จักกันในชื่อ ชาขาวเข็มเงิน จากไร่ชา แม่สรวย เชียงราย
POW พาวน้ำ 375 ml พาวเอสเซ้นส์ น้ำสมุนไพรพลูคาว
พาวน้ำขวดเล็กพกพาสะดวก พาวน้ำประกอบด้วยสมุนไพรทั้งหมด 11 ชนิด โดยมีพลูคาวเป็นส่วนผสมหลัก และประกอบไปด้วยสมุนไพร ใบมะรุม มะขามป้อม ลูกยอ กระชายดำ ตังกุย เห็ดหลินจือ เก๋ากี๊ สมอไทย โสม เจียวกู้หลาน