ซิฟิลิส หนองใน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร

ปรับปรุงล่าสุด : 14 มิถุนายน 2567

ซิฟิลิส หนองใน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร #2

ซิฟิลิส กับ หนองใน ทั้ง 2 โรคนี้เป็นโรคติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเหมือนกัน  แต่อาการของโรคทั้ง 2 ชนิดมีความต่างกัน คือ

ซิฟิลิส หนองใน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร #4

ซิฟิลิส  เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ทรีโพนีมา แพลลิดัม  หลังจากได้รับเชื้อในช่วงแรกอาจพบรอยแผลเริมแข็งบริเวณอวัยวะที่ใช้มีเพศสัมพันธ์ อาจมีผมร่วงเป็นหย่อมๆได้  โดยผู้ป่วยบางรายอาจจะไม่แสดงอาการ โดยระยะอาการของโรคแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่

  • ระยะที่1 ช่วงฟักตัว เกิดหลังจากผู้ป่วยมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 3 สัปดาห์ ถึง 3 เดือน มักพบรอยของโรคบริเวณอวัยวะที่ใช้มีเพศสัมพันธ์ องคชาติ ช่องคลอด รวมถึงทวารหนักและปาก โดยแผลจะมีลักษณะกลมขอบนูนแข็ง ไม่มีน้ำหนอง ไม่เจ็บ และแผลสามารถหายได้ แม้ไม่ได้รับการรักษา
  • ระยะที่2 ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตัว ต่อมน้ำเหลืองโต และผื่นขึ้นตามตัวโดยเฉพาะฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือผื่นในช่องปาก ในระยะนี้ผู้ป่วยสามารถหายเอง แต่สามารถเป็นใหม่ได้อีกครั้ง
  • ระยะแฝง  ทั้งระยะที่1 และ 2 เป็นระยะที่สามารถหายเองได้ จะไม่พบรอยโรคและไม่อาการแสดง แม้ไม่ได้รับการรักษา แต่เชื้อจะแฝงตัวอยู่ภายในร่างกายได้นานนับ 10 ปี  มักจะตรวจเจอจากการตรวจเลือด
  • ระยะที่3 ความรุนแรงของโรคจะเพิ่มขึ้น เกิดภาวะแทรกซ้อนตามระบบในร่างกาย ระบบหัวใจ และหลอดเลือด อาจพบก้อนตามอวัยวะต่างๆ เช่น ก้อนที่กระดูก ข้อ หรือก้อนที่ตับ เป็นต้น

นอกจากระยะต่างๆเหล่านี้แล้ว การติดเชื้อสามารถติดเชื้อที่ระบบประสาทส่วนกลาง ตา หูได้เช่นกัน

ซิฟิลิส หนองใน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร #5

หนองใน  เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า ไนซีเรีย โกโนเรีย ทำให้เกิดการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ ปากมดลูก เยื่อมดลูก อาการที่พบ

  • ในเพศชาย  จะมีอาการ ปัสสาวะแสบขัด บางรายมีหนองไหลจากปลายท่อปัสสาวะ หรือบางรายมีอาการปวดบริเวณลูกอัณฑะ
  • ในเพศหญิง  มักไม่มีอาการที่เด่นชัด แต่หากมีอาการจะมีอาการตกขาวผิดปกติ  เจ็ยบเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องน้อย ปัสสาวะแสบขัด
  • ในกลุ่มที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก  จะมีอาการปวดหน่วงลงก้น มีหนองไหล หรือมีสารคัดหลั่งผิดปกติออกมาจากทวารหนัก  บางรายมีเพศสัมพันธ์ทางปาก จะมีอาการหนองบริเวณต่อมทอมซิลได้

ผู้ป่วยหนองในบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น มีก้อนฝี อุ้งเชิงกรานอักเสบทำให้เป็นหมันได้ในอนาคต หรือท้องนอกมดลูกได้  เพศชายหากท่อน้ำอสุจิหรืออัณฑะอักเสบสามารถทำให้เป็นหมันได้ในอนาคต หรือในรายที่รุนแรงมากเชื้อหนองในสามารถติดเชื้อในกระแสเลือดได้

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคทั้งซิฟิลิส และ หนองใน

มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ไม่ใส่ถุงยางอนามัย หรือมีการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย หรือติดเชื้อโดยปัจจัยอื่น เช่นการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก หากเป็นโรคซิฟิลิสสามารถติดได้ตั้งแต่เป็นทารกในครรถ์ หรือติดในขณะคลอดได้ ส่วนโรคหนองในจะติดจากแม่สู่ลูกได้ตอนที่คลอด ตำแหน่งที่ติดส่วนใหญ่จะเกิดบริเวณตา เด็กจะเป็นหนองในตา หากไม่ได้รับการรักษาจะเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคได้

ซิฟิลิส และหนองใน สามารถรักษาให้หายขาดและป้องกันได้โดย

  1. สวมถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์
  2. ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  3. เว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนที่มีแผลที่อวัยวะเพศ ทวารหนัก ปาก
  4. สังเกตุอาการ ตรวจคัดกรองเมื่อมีความเสี่ยง
  5. เมื่อติดเชื้อรักษาด้วยยาปฎิชีวนะทำให้หายขาดจากโรคได้   แต่อย่างไรก็ตามโรคนี้สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้เมื่อได้รับเชื้อใหม่

ซิฟิลิส หนองใน เหมือนหรือต่างกันอย่างไร #3

ที่มาข้อมูล : บทความสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , บทความสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น , กลุ่มงานการแพทย์และสาธารณสุข ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย

Khampo.com

สนใจสินค้า หรือ ต้องการพูดคุยปรึกษา เรื่องการดูแลสุขภาพ ติดต่อสอบถามพวกเรา KHAMPO.com (คำโพธิ์ด๊อดคอม) ได้เสมอค่ะ