ลดน้ำหนัก วิ่งอย่างเดี่ยว อาจไม่พอ

หลายคนพยายามที่จะลดน้ำหนักด้วยการวิ่ง ซึ่งนั่นถือเป็นทางเลือกที่ดี แต่เราไม่ควรที่จะวิ่งอย่างเดียวเพื่อให้น้ำหนักลง เพราะว่าการลดน้ำหนักนั้นต้องมีวินัยและทำหลายๆ อย่างควบคู่ไปด้วย

ใส่ใจกับอาหาร

แน่นอนเลยว่าสำหรับการลดน้ำหนัก นอกจากออกกำลังกายแล้วการเลือกอาหารนั้นก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นนอกจากเราจะออกกำลังกายเราก็ควรที่จะเลือกทานแต่ของที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะหากออกกำลังกายแล้วยังกินตามใจปากก็อาจจะทำให้เราอ้วนขึ้นกว่าเดิม

มีวินัยแต่ไม่เครียดจนเกินไป

การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องง่าย และจะยิ่งยากเข้าไปอีกเมื่อเราขาดสิ่งที่เรียกว่า วินัย นักวิ่งหลาย ๆ คนที่ลดน้ำหนักได้สำเร็จส่วนใหญ่ พวกเขาล้วนแต่มีวินัยในการออกกำลังกายและการกินที่ดีมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรที่จะตึงกับตัวเองจนเกินไป สำหรับเรื่องการกิน อาจจะจัดวันให้ตัวเองได้กินตามใจสัก 1วันในสัปดาห์ เพื่อให้ชีวิตไม่เครียดจนเกินไป ส่วนเรื่องของการวิ่ง ถ้าชอบวิ่งยาววิ่งนาน หรือ วิ่งเร็วก็สามารถลุยได้เลย แต่หากใครเป็นมือใหม่มากๆ รู้สึกว่าวิ่งยากๆ แบบนั้นไม่ไหว จะเลือกเดินก็ไม่ถือว่าผิดแต่อย่างใด ขอแค่เราได้ออกกำลังกายเป็นอันใช้ได้

พัฒนากล้ามเนื้อ

การพัฒนากล้ามเนื้อนอกจากจะทำให้เราแข็งแรงมีหุ่นที่ดีขึ้นแล้ว มันยังส่งเสริมการวิ่งของเราให้ดีขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นนอกจากวิ่งและกินของที่มีประโยชน์แล้วก็อย่าลืมพัฒนากล้ามเนื้อฃ

ตั้งเป้าหมายกับการวิ่ง

เพื่อไม่ให้การลดน้ำหนักน่าเบื่อจนเกินไป ควรตั้งเป้าหมายในเรื่องวิ่ง เช่น ใครที่เพิ่งเริ่มวิ่งยังวิ่งได้แค่นิดๆ หน่อยๆ ก็อาจจะเพิ่มเป้าหมายเป็นระยะที่มากขึ้น หรือการวิ่งต่อเนื่องที่ยาวนานขึ้น เพื่อให้การวิ่งของเรามีสีสันและไม่น่าเบื่อจนเกินไป แบบนี้นอกจากจะเพิ่มความสนุกให้กับการวิ่งแล้ว ก็ยังดีต่อสุขภาพของเราอีกด้วย เผลอๆ รู้ตัวอีกทีอาจจะไปถึงมาราธอนพร้อมกับรูปร่างที่ดีขึ้น

วิ่งก่อนกินข้าวเช้า

นักวิจัยชี้ว่าการวิ่งก่อนอาหารเช้านั้นสามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญได้มากกว่าการออกกำลังกายหลังอาหารเช้า แต่มีข้อแม้ที่บอกว่าต้องเป็นการวิ่งเบาๆ ในระยะเวลาที่ไม่นานจนเกินไปหรือน้อยกว่า1 ชั่วโมง

ทั้งหมดนี้ คือ 5 ข้อที่เป็นคู่มือช่วยชี้แนะสำหรับคน ที่อยากลดน้ำหนัก ขอให้ประสบความสำเร็จสุขภาพดีกันทุกคนค่ะ

“การลดน้ำหนัก ต้องมีวินัย และ ทำหลายๆ อย่างควบคู่กันไป”

อ้างอิงข้อมูลจาก Dr Daniel O’Connor ศาสตราจารย์ด้านสุขภาพและสมรรถภาพของมนุษย์จากมหาวิทยาลัยฮูสตัน