รู้ทันโรคเบาหวาน

รู้ทันโรค<strong>เบาหวาน</strong> #1

เบาหวาน เป็นโรคยอดฮิตที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของสาเหตุการเสียชีวิตทั่วโลก อัตราตายด้วยโรคเบาหวานเพิ่มสูงขึ้นทุกปี  แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังอาจจะเข้าใจผิดว่าสาเหตุของการเกิดโรคเบาหวาน คือการกินหวาน หรือกินน้ำตาลเพียงอย่างเดียวแต่อันที่จริงแล้ว

สาเหตุของโรคเบาหวานนั้นมีมากมาย ขึ้นอยู่กับชนิดของเบาหวาน

เราสามารถจำแนกโรคเบาหวานตามสาเหตุการเกิดได้ 4 ชนิด ได้แก่ เบาหวานชนิดที่1, เบาหวานชนิดที่2, เบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะ และเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ซึ่งโรคเบาหวานชนิดที่คนส่วนใหญ่มักสับสนคือ เบาหวานชนิดที่1 และ เบาหวานชนิดที่2 เราจึงควรเข้าใจความแตกต่าง ระหว่างเบาหวานชนิดที่1 และเบาหวานชนิดที่2 ให้ถูกต้องมากขึ้น เพื่อจะได้รับมือและรักษาได้อย่างเหมาะสมที่สุด

โรคเบาหวานชนิดที่1

จัดเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง (Autoimmune disease)ซึ่งหมายถึง ความผิดปกติของภูมิคุ้มกันของร่างกาย เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันทำลายเบต้าเซลล์ (Beta cell) ในตับอ่อนซึ่งทำหน้าที่ผลิตอินซูลิน จนร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินที่คอยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (Blood Glucose Level) ได้ตามปกติ อีกทั้งทำให้เกิดภาวะเลือดเป็นกรดที่เกิดจากกรดคีโตนคั่ง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้ ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่1 จึงจำเป็นต้องฉีดอินซูลินเข้าร่างกาย เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงและไม่เกิดภาวะกรดคีโตนคั่ง

โรคเบาหวานชนิดที่2

เกิดจากร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอต่อความต้องการ ที่เรียกว่า ภาวะดื้ออินซูลิน (Insulin Resistance ) จึงไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง จนเป็นโรคเบาหวาน

ความแตกต่างโดยทั่วไปของเบาหวานชนิดที่ 1 และเบาหวานชนิดที่ 2

โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (Diabetes Mellitus Type 1)

  • มักพบในเด็กและวัยรุ่น โดยพบมากในช่วงอายุ 4-7ปี และ 10-14ปี
  • ไม่เกี่ยวข้องกับน้ำหนัก หรือรูปแบบการใช้ชีวิต
  • ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักได้รับการวินิจฉัยจากที่มีภาวะเลือดเป็นกรด จากกรดคีโตนคั่ง
  • รักษาด้วยการฉีดอินซูลิน หรืออินซูลินปั๊ม
  • หากไม่ใช้อินซูลิน จะควบคุมอาการของโรคไม่ได้
  • เบาหวานชนิดที่ 1 ยังไม่มีวิธีป้องกันได้

โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Diabetes Mellitus Type 2)

  • มักพบในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ เป็นโรคอ้วน หรือมีภาวะเสี่ยงเบาหวาน (Prediabetes) คือ น้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติเล็กน้อย กลุ่มนี้ จะยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  • หากมีคนในครอบครัว เป็นเบาหวาน ชนิดที่ 2 จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น
  • ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลังกาย หรือมีภาวะอ้วนลงพุง จะยิ่งมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
  • ผู้ป่วยส่วนใหญ่ มักตรวจพบว่ามีระดับความดันโลหิตสูง
  • มักไม่มีอาการ ผู้ป่วยส่วนใหญ่จึงไม่รู้ตัวว่าเป็นเบาหวานชนิดที่ 2
  • ส่วนใหญ่ หากยังอยู่ในระยะเริ่มแรก และระดับน้ำตาลในเลือดไม่สูงมาก สามารถรักษาได้โดยไม่ต้องใช้ยา
  • สามารถป้องกัน ชะลอ หรือควบคุมอาการได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ออกกำลังกายเป็นประจำ กินอาหารมีประโยชน์

การป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน

โรคเบาหวานชนิดที่1 ไม่สามารถป้องกันได้ ต้องรักษาด้วยการใช้ยาฉีดอินซูลินเข้าร่างกายเป็นประจำ โดยแพทย์จะเป็นผู้กำหนดว่าผู้ป่วยแต่ละรายต้องฉีดอินซูลินเข้าร่างกายปริมาณเท่าใด

ส่วนโรคเบาหวานชนิดที่2 สามารถป้องกันหรือลดความเสี่ยงได้ด้วยการใช้ชีวิตประจำวันแบบดีต่อสุขภาพ เช่น ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์สุขภาพดี อย่าปล่อยให้อ้วน ลงพุง สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าว ร่วมกับการกินยาตามแพทย์สั่ง หากคุณดูแลร่างกายดีๆ อาจไม่จำเป็นต้องกินยารักษาเบาหวานไปตลอด

รู้ทันโรค<strong>เบาหวาน</strong> #2


ที่มาของบทความ:diabetescareth (เขียนบทเรียง โดย ทีม Hello Khunmorทบทวนบทความ โดย แพทย์หญิงรุ่งนภา ลออธนกุล)

POW Zukar Q พาวซูการ์คิว

กลุ่มโรค NCDs เป็นกลุ่มโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การดื่มแอลกฮอล์ การสูบบุหรี่ การไม่ออกกำลังกาย การนอนดึก มีภาวะความเครียดสูง  ตัวอย่างของโรค NCDs ได้แก่ โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ  โรคห...

ดูรายละเอียด

เบาหวาน

บทความน่ารู้

ตาพร่า ตามัว จากเบาหวาน

ตากับเบาหวานเกี่ยวกันได้อย่างไร  เมื่อเป็นเบาหวานมานานและมีน้ำตาลในเลือดสูง น้ำตาลในเลือดจะไปเกาะที่ผนังหลอดเลือดต่างๆ ทำให้หลอดเลือดทั่วร่างกายเริ่มเสื่อม หลอดเลือดฝอกที่ตาก็เสื่อมได้เช่นกัน เมื่อหลอดเลือดฝอยที่ตาเสื่อม ตาพร่า ตามัว มองเห็นไม่ค่อยช...

อ่านต่อ

ดื่มน้ำ เท่าไหร่ ส่งผลอย่างไร

ถ้าไม่ได้ดื่มน้ำเลยปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ปัสสาวะน้อยมาก-ไม่ปัสสาวะเลย, ปากแห้ง, มีอาการแสบร้อนเมื่อปัสสาวะ, ได้กลิ่นปัสสาวะรุนแรง, ปัสสาวะที่ออกมามีอุณหภูมิสูง ต้องรีบดื่มน้ำเร่งด่วนถ้าดื่มน้ำ 250มิลลิลิตรปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ยังขาดน้ำเป็นจำนวนมาก อา...

อ่านต่อ

ประโยชน์ของ น้ำมะพร้าว

มะพร้าว เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เหมาะสำหรับนำมาใช้บำรุงสุขภาพ และบำรุงผิวพรรณเพื่อความสวยความงาม ประโยชน์ของมะพร้าวมีดังนี้ดื่มน้ำมะพร้าว ช่วยแก้กระหาย เพิ่มความสดชื่นในช่วงที่อากาศร้อน น้ำมะพร้าวเป็นตั...

อ่านต่อ

ข้อดีของกาแฟดำ สำหรับ ผู้ป่วยเบาหวาน

โรคเบาหวานถือเป็นโรคยอดนิยม ที่ผู้คนส่วนใหญ่เป็นกันมาก และช่วงอายุของผู้ที่เป็นเริ่มลดลงมาอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาว อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการกินอาหารและการใช้ชีวิตแบบผิดๆ  การทีปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำให้โรคเบาหวานจะเข้าทำลายดวง...

อ่านต่อ